การย้าย ค่าเฉลี่ย ของ Oracle 11g

ฉันได้อ่านคำถามนี้แล้ว - OBIEE Moving Average Mavg เป็นเวลา 4 สัปดาห์ในตาราง Pivot - เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ใน OBIEE อย่างไรก็ตามฉันประสบปัญหาในการคำนวณรายการดังกล่าวในตาราง Pivot ในมุมมองตารางเดือยผมคิดว่า ฉันเพิ่งจะเลือก New Calculated Item และสร้างค่าเฉลี่ยของฟังก์ชัน moving สำหรับค่าที่หมุนได้ แต่ในเมนูแบบเลื่อนลง Values ​​From รายการที่ฉันต้องการจะไม่เป็นค่าเฉลี่ยผมเชื่อว่านี่อาจเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ได้ดึงข้อมูลค่า ค่าจากข้อมูลในตารางต้นฉบับของคอลัมน์ฉันพยายามเลือกรักษาเป็นคอลัมน์แอตทริบิวต์ แต่ล้มเหลวเช่นกันฉันจะสร้างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ภายในตาราง Pivot สำหรับคอลัมน์ที่คำนวณจากข้อมูลเดิมดูคล้ายกับ this. Where มูลค่าคือยอดขายวันที่ขายทั้งจำนวนและวันจะถูกเก็บไว้ในตารางข้อมูลเดิมที่เก็บไว้ 25 ก. ย. 25 ที่ 13 25. ไปที่แท็บเกณฑ์และดึงมาตรการวัดใด ๆ ที่จะทำตอนนี้แก้ไขที่วัด s colum n สูตรของคุณจำนวนยอดขายวันที่ฉันจะเปลี่ยนชื่อเป็น well. When คุณคลิกไปที่แท็บผลคุณจะเห็นว่าคอลัมน์เพิ่มมุมมองทั้งหมดเพียงแก้ไขแต่ละมุมมองและลบคอลัมน์ออกจากมุมมองที่คุณไม่ต้องการ ดูในคอลัมน์นอกจากนี้คุณยังสามารถแทนที่คอลัมน์ค่าที่มีอยู่ในตาราง Pivot ของคุณได้หากมีคอลัมน์คำนวณใหม่รายการที่คำนวณโดยใช้ตารางหลักจะใช้ร่วมกับคอลัมน์ที่มีอยู่ในตาราง Pivot แล้วตอบ 26 26 16 ที่ 11 28. OBIEE คุณสามารถตั้งค่าบรรทัดทั้งหมดในระดับใดก็ได้ของตารางและ pivot ในตัวอย่างทั้งหมดอยู่ที่ระดับ Year และ Grand Total ผลรวมทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตั้งค่ารวมในสูตรถ้าเราจะเปลี่ยน Revenue s Total Total Rule Totals จากค่าเริ่มต้นเป็น Average เราจะมีผล Totals ที่แตกต่างกันซึ่งจะดีมากตราบเท่าที่คุณพอใจกับตัวเลือกที่คุณมีในกรณีของฉันฉันได้รับการร้องขอให้แสดงค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักในบรรทัดผลรวม หมายความว่าไงถ้าขาย 1000 รายการ s สำหรับ 1 แต่ละขายเป็น 1000 ถ้าฉันขาย 1 รายการสำหรับ 1000 ขายเป็น 1000 เฉลี่ยของการขาย 1000 1000 2 1000.The ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของการขายคือ 1000 1000 1000 1 1 998002 ไม่มีตัวเลือกเริ่มต้นของค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักใน OBIEE เพื่อให้เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิงตารางแหล่งที่มาถูกรวม I don t มี 1000 สาย 1 แต่เพียง 1 บรรทัดของข้อมูลดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะปลอมตารางเดิมของฉันมี 4 คอลัมน์ชื่อ, รหัสนับและค่าสำหรับบรรทัดแรกของตัวอย่างข้างต้นนับเป็น 1000 และค่า 1 ฉันต้องการคอลัมน์เพิ่มเติมที่คูณนับและมูลค่าที่ระดับการทำธุรกรรมไม่รวมฉันอาจต้องการมันเป็นการเปลี่ยนแปลงในแหล่งข้อมูล แต่ฉัน ตัดสินใจที่จะสร้างคอลัมน์ที่คำนวณได้ในการบริหารฉันเพิ่มคอลัมน์ชื่อ multip ที่แหล่งมาของคอลัมน์มาจากการทำแผนที่ทางกายภาพที่ฉันสร้างค่านับการคำนวณการรวมกันของคอลัมน์คือ Sum. Next ฉันสร้างการวิเคราะห์ตาม 5 คอลัมน์วิธีการเพิ่มจำนวนรวมสำหรับแต่ละชื่อที่ฉันเลือก Combine ผลที่ตามเกณฑ์และ Union เลือกทั้งหมดในเกณฑ์ที่สองฉันมีดังต่อไปนี้ในคอลัมน์ชื่อคอลัมน์ชื่อในคอลัมน์รหัสสตริง TotalThen มาตรการฉันลบชื่อโฟลเดอร์สำหรับ clarity. sum count1 โดย name1.sum value1 โดย name1.sum multip by name1 sum count1 โดย name1 ขณะนี้เราต้อง finish. I สุดท้ายต้องเรียงลำดับแรกตามชื่อแล้วตาม code แต่ฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าสตริง Total จะเป็นค่าสุดท้ายสำหรับแต่ละ ชื่อฉันตัดสินใจที่จะเชื่อมต่อช่องว่างก่อนโค้ดแต่ละรหัสสูตรขั้นตอนสุดท้ายคือการเปลี่ยนสีของเซลล์ในบรรทัดทั้งหมดโดยใช้รูปแบบเงื่อนไขทุกครั้งที่รหัส Total. One ปัญหาล่าสุดที่เราสามารถ t อนุญาตให้ผู้ใช้แดชบอร์ดจัดเรียงตาราง หรือเล่นกับมันดังนั้นที่คุณสมบัติการวิเคราะห์ฉันจะป้องกันไม่ให้เกิดการติดต่อทั้งหมด A การคำนวณตัวอย่างฟังก์ชั่น Analytics จะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ต่อไปนี้การเรียกเก็บเงิน - ตอบคำถามทางธุรกิจเช่นอะไรคือ 10 อันดับแรกและด้านล่างพนักงานขาย 10 คนต่อภูมิภาค - ธุรกิจเช่น Wh ที่แบรนด์ทำขึ้น 25 จากการขายการแจ้งเตือน - คำถามที่อยู่ธุรกิจเช่นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 13 สัปดาห์ของราคาหุ้นหรือยอดรวมสะสมของยอดขายต่อพื้นที่คืออะไรรายงานสรุป - หลังจากที่ประมวลผลผลการค้นหาแล้วค่าสรุปรวมเช่น จำนวนแถวที่เป็นผลลัพธ์หรือผลรวมของคอลัมน์ในชุดของแถวที่อยู่คำถามเช่นสิ่งที่แต่ละผลิตภัณฑ์มียอดขายเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตนคำชี้แจงเกี่ยวกับตะกั่ว - ตั้งคำถามเกี่ยวกับธุรกิจเช่นการเติบโตของยอดขายในภูมิภาคของปี 1998 เมื่อเทียบกับปี 2540 มีค่ามากกว่า 20 และมูลค่าการขายในปีงบการเงิน พ. ศ. 2539 มีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 1996 สถิติ - การวิเคราะห์ทางสถิติด้วยแอพพลิเคชันสเปรดชีต OLAP ของ Business Intelligence ตัวอย่างเช่นความแปรปรวนร่วมและฟังก์ชันการถดถอยเชิงเส้น A 5 2. การคำนวณและการเจาะเข้าและออกจากข้อมูลเมื่อคุณใช้ Analytic Functions โปรดทราบว่าพวกเขามีคำจำกัดความที่แม่นยำซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงขณะที่คุณเจาะหมุนหรือเรียงลำดับชุดผลลัพธ์ตัวอย่างเช่นถ้า คุณใช้ฟังก์ชัน RANK เพื่อจัดอันดับให้เป็นตัวเลขยอดขายที่แบ่งตามไตรมาสโดยถ้าคุณเจาะระดับเดือนระดับนี้จะใช้กับระดับ Quarter เท่านั้น A 5 3 เกี่ยวกับเทมเพลตฟังก์ชันการวิเคราะห์เมื่อสร้าง Analytic Functions ใน Discoverer Desktop, คุณสามารถพิมพ์หรือวางได้โดยตรงในกล่องโต้ตอบการคำนวณหรือคุณสามารถเลือกได้จากรายการฟังก์ชั่นถ้าคุณเลือกจากรายการฟังก์ชั่นคุณจะเห็นด้วยเทมเพลตฟังก์ชันการวิเคราะห์แบบทั่วไปที่ช่วยให้คุณกำหนดฟังก์ชันด้วยการบอก คุณควรใช้ข้อมูลใดในการจัดทำเทมเพลทเป็นแนวทางเนื่องจากแม่แบบได้รับการออกแบบเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานส่วนใหญ่คุณจะไม่จำเป็นต้องใช้ทุกส่วนของเทมเพลตเสมอตัวอย่างเช่นเมื่อคุณวางฟังก์ชัน RANK Analytic Function ใหม่ ลงในกล่องคำนวณ Discoverer Desktop มีแม่แบบต่อไปนี้ PARTITION BY โดย expr1 ORDER BY expr2 แม้ว่าคุณจะสามารถกำหนดฟังก์ชันที่ซับซ้อนได้โดยใช้ทั้งนิพจน์ expr1 และ expr2 คุณสามารถ n มักกำหนดฟังก์ชันง่ายๆโดยใช้นิพจน์ ORDER BY เช่น RANK OVER ORDER BY Sales ตัวอย่างนี้จัดอันดับตัวเลขการขายที่กำหนดไว้ในรายการการขายหมายเหตุโดยค่าเริ่มต้นข้อมูลผลลัพธ์จะเรียงลำดับจากน้อยไปมาก ASC, nulls แรก NULLS FIRST สําหรับขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิพจน์ที่ใชโดยเทมเพลตฟงกชันการวิเคราะหโปรดดูสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทมเพลตฟงกชันการวิเคราะหA 5 4 4 ฟอรมฟงกชันการจัดอันดับ A 5 4 1 เกี่ยวกับฟงกชันการจัดอันดับการคนหาอันดับของรายการที่เกี่ยวของกับรายการอื่น ๆ ใน รายการที่เรียงลำดับ A 5 5 1 เกี่ยวกับ Banding. Banding คือประเภทของการจัดอันดับที่แบ่งรายการค่าในพาร์ติชันเป็นกลุ่มที่ระบุซึ่งเรียกว่า Bands หรือที่เรียกว่า buckets และกำหนดค่าแต่ละค่าให้ Band. Two เป็นประเภทที่พบบ่อย กำลังแบ่งตามค่า - แบ่งค่าเป็นกลุ่มตามค่าที่เรียกว่าเป็นวง equi-width ที่นี่ฟังก์ชันโดยทั่วไปจะใช้ค่าที่ใหญ่ที่สุดลบค่าต่ำสุดและหารผลตามจำนวนแถบที่ต้องการ T ค่าของเขากำหนดช่วงของแต่ละ Band. Values ​​จะถูกกำหนดให้กับแถบตามระยะที่พวกเขาตกอยู่ในดังนั้นจำนวนค่าในแต่ละ Band อาจแตกต่างกันตัวอย่างเช่นถ้าเรามี 100 ค่าและแบ่งออกเป็นสี่วง equi กว้าง , วงดนตรีแต่ละคนอาจมีจำนวนที่แตกต่างกันของค่าใช้ฟังก์ชัน GREATEST หรือฟังก์ชั่น CASE เพื่อสร้างวง equi กว้างตามค่า Banding by rank - นี้แบ่งค่าเป็นกลุ่มตามระดับของพวกเขาที่รู้จักกันว่าวง equi ความสูงที่นี่ ฟังก์ชันแบ่งจำนวนค่าในพาร์ติชันตามจำนวนแถบซึ่งจะให้จำนวนค่าในแต่ละกลุ่มค่าที่เหมือนกันจะถูกวางไว้ในแต่ละกลุ่มตัวอย่างเช่นถ้าเรามีค่า 100 และแบ่งข้อมูลเหล่านี้ไว้ สี่วงความสูงเท่ากันแต่ละวงมีค่า 25 ค่าใช้ฟังก์ชัน NTILE เพื่อผลิตวง equi-height ตามลำดับ A 5 5 2 การผลิตวงกว้างเท่ากับ 1. ตัวอย่างนี้แบ่งยอดขายเป็นวงตามค่าของพวกเขาที่รู้จักกันดี เป็นวง equi กว้าง A 5 6 1 เกี่ยวกับ Windowing ฟังก์ชันการทำงานของ Winding ใช้ในการคำนวณมวลรวมโดยใช้ค่าจากแถวอื่น ๆ ตัวอย่างเช่นการสะสมการเคลื่อนย้ายและการรวมศูนย์สองประเภทคือ Windowing ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปการคำนวณค่าชดเชยจะขึ้นอยู่กับ a เทียบกับค่าที่มีอยู่เช่นสามเดือนก่อนวันที่ค่าตัวอย่างเช่นถ้าเรามีรายชื่อตัวเลขการขายรายเดือนหน้าต่างตรรกะสามารถคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของสามเดือนก่อนหน้ารวมถึงเดือนปัจจุบันเมื่อคำนวณ ค่าเฉลี่ยการคำนวณจะถือว่าเป็นค่า NULL สำหรับเดือนที่หายไปจากรายการตัวอย่างเช่นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 3 เดือนสำหรับเดือนพฤศจิกายนจะถือว่าค่า NULL สำหรับเดือนที่ขาดหายไปเดือนกันยายนและตุลาคมตามด้วยการชดเชยทางกายภาพที่นี่ค่าชดเชยขึ้นอยู่กับ ค่าที่เป็นจำนวนแถวที่ระบุจากค่าที่มีอยู่เช่นสามแถวจากรายการปัจจุบันตัวอย่างเช่นถ้าเรามีรายการตัวเลขการขายรายเดือนหน้าต่างทางกายภาพสามารถคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ได้ ของแถวก่อนหน้านี้สามแถวไม่สนใจเดือนที่หายไปเมื่อคำนวณค่าเฉลี่ยการคำนวณจะไม่สนใจเดือนที่หายไปจากรายการตัวอย่างเช่นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สามเดือนสำหรับเดือนพฤศจิกายนใช้มิถุนายนกรกฎาคมและพฤศจิกายนในการคำนวณ A 5 6 2 คำนวณ ค่าเฉลี่ยการขายเฉลี่ย 3 เดือนตัวอย่างนี้ใช้หน้าต่างตรรกะในการคำนวณยอดขายเฉลี่ย 3 เดือน A 5 8 1 เกี่ยวกับฟังก์ชัน Lag Lead Function. LAG และ LEAD มักใช้เพื่อเปรียบเทียบค่าในช่วงเวลาที่แตกต่างกันตัวอย่างเช่นเปรียบเทียบยอดขาย ตัวเลขในปี 2000 โดยมีตัวเลขการขายในปี 2544.LAG - ให้การเข้าถึงตารางมากกว่าหนึ่งแถวในเวลาเดียวกันโดยไม่ต้องเข้าร่วมตัวเอง LEAD - ให้สิทธิ์เข้าถึงแถวที่ตำแหน่งที่กำหนดหลังจากตำแหน่งปัจจุบัน A 5 8 เปรียบเทียบยอดขายในช่วงเวลาตัวอย่างเช่นเปรียบเทียบยอดขายในช่วงเวลาข้อมูลการวิเคราะห์วิดีโอปีปฏิทินปียอดขาย SUM. Department Video Sale หรือแผนก Video Rental. LAG Sales SUM, 1 OVERER BY ปีเนื่องจากไม่มีการเปรียบเทียบ ตัวเลขปี 2541 ค่าของปีที่แล้วสำหรับปีพ. ศ. 2541 ว่างเปล่า A 5 8 3 คำนวณการเติบโตของยอดขายในช่วงเวลาโดยการเปรียบเทียบยอดขายจากตัวอย่างที่ 11 8 2 ตัวอย่างนี้จะคำนวณยอดขายที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา A 5 9 1 เกี่ยวกับสถิติฟังก์ชัน ฟังก์ชันการคำนวณจะใช้ในการคำนวณความแปรปรวนร่วมกันและสถิติการถดถอยเชิงเส้นฟังก์ชันแต่ละฟังก์ชันทำงานบนชุดที่ไม่เรียงลำดับนอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นฟังก์ชันการจัดทำข้อมูลและการรายงาน A 5 9 2 คำนวณการถดถอยเชิงเส้นตัวอย่างนี้คำนวณการถดถอยอย่างน้อยที่สุด บรรทัดที่แสดงกำไร SUM ต่อเดือนเป็นฟังก์ชันเชิงเส้นของยอดขายของ SUM ฟังก์ชันต่อไปนี้ใช้ SLOPE - ความลาดชันของการกำหนดบรรทัดการถดถอย INTERCEPT - การสกัดกั้นการกำหนดบรรทัดการถดถอย REGRR2 - ค่าสัมประสิทธิ์การกำหนดการถดถอย line. REGRCOUNT - จำนวนรายการ. GRRAVGX - เงินเดือนเฉลี่ย A 6 เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทมเพลตฟังก์ชันการวิเคราะห์เมื่อคุณวางฟังก์ชันวิเคราะห์ใหม่ลงในกล่องคำนวณ Discoverer Desktop มีแม่แบบทั่วไปดังต่อไปนี้ PARTITION BY โดย expr1 ORDER BY expr2 นิพจน์จะถูกใช้เป็นดังนี้โอเวอร์ - แสดงว่าฟังก์ชันทำงานบนชุดผลลัพธ์แบบสอบถามหลังจากใช้อนุประโยคการสืบค้นข้อมูลอื่น ๆ เช่น FROM, WHERE , HAVING ฯลฯ PARTNER BY - พาร์ทิชันหรือกลุ่มผลการค้นหาชุด E กรัม PARTITION ตามภูมิภาค REGORD BY - ระบุวิธีการตั้งค่าผลลัพธ์ตามลำดับคำสั่ง E g ORDER BY Sales SUM สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิพจน์ Oracle โปรดดูที่การเรียกข้อมูลเพิ่มเติม 7 ฟังก์ชันการวิเคราะห์และลำดับเมื่อคุณใช้ฟังก์ชันการวิเคราะห์ในสภาวะที่วิธีที่คุณรวมไว้กับฟังก์ชันที่ไม่ใช่การวิเคราะห์จะมีผลกับข้อมูลที่ส่งกลับโดยแบบสอบถามกฎการเรียงลำดับต่อไปนี้จะมีผลเมื่อเงื่อนไขประกอบด้วยฟังก์ชันที่ไม่เป็นแบบวิเคราะห์เท่านั้นเหล่านี้ จะถูกใช้ก่อนเงื่อนไขที่ประกอบด้วยฟังก์ชันการวิเคราะห์ในตัวอย่างข้างต้นเงื่อนไข Central Central ถูกใช้ก่อนจากนั้นจะมีการคำนวณอันดับจากนั้นจะใช้เงื่อนไข Rank 3 ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชัน Analytic เมื่อเงื่อนไขมีการรวมกันของฟังก์ชันที่ไม่ใช่การวิเคราะห์และฟังก์ชัน Analytic ฟังก์ชัน Analytic จะถูกใช้ก่อนหน้าที่ไม่ใช่ Analytic ในตัวอย่างข้างต้น Rank ถูกประเมินจากนั้นจะใช้เงื่อนไข Rank 3 จากนั้นให้ใช้เงื่อนไข Region Central เพื่ออธิบายลำดับการส่งผลต่อข้อมูลที่ส่งกลับโดยแบบสอบถามให้พิจารณาสถานการณ์สมมติที่สองต่อไปนี้ในภาพจำลองแรกข้างต้นเราจะใช้เงื่อนไขสองเงื่อนไข Central Central และอันดับ 3 ซึ่ง Rank เป็นฟังก์ชันวิเคราะห์ มีการใช้เงื่อนไข Central Central ก่อนแล้วอันดับที่ 3 ดังนั้นเฉพาะยอดขายในภาคกลางที่มีอันดับที่สามหรือน้อยกว่าจะรวมอยู่ในชุดผลลัพธ์ในภาพจำลองที่สองข้างต้นเราจะใช้เขตพื้นที่เงื่อนไขขั้นสูง Central AND ลำดับที่ 3 อันดับที่เป็นฟังก์ชันวิเคราะห์ตำแหน่งอันดับ 3 จะถูกใช้ก่อนจากนั้นจึงเป็นเงื่อนไขกลางของเขตดังนั้นตัวเลขเฉพาะในภาคกลางที่มีภาพรวม อันดับที่สามหรือน้อยกว่าจะรวมอยู่ในชุดผลลัพธ์ในหน้านี้ช่วยเพิ่มการนำทางเนื้อหา แต่ไม่ได้เปลี่ยนเนื้อหาในลักษณะใด ๆ